บริจาคเลือดดีจริงหรือ? เจาะลึกทุกมุมมองของผู้ให้

ฺBlood Donate

การบริจาคเลือดเป็นการแสดงออกถึงความมีน้ำใจและการแบ่งปันที่ทรงคุณค่า สามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยในสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น อุบัติเหตุ การผ่าตัดใหญ่ หรือผู้ป่วยโรคเลือดต่าง ๆ ที่ต้องการเลือดอย่างต่อเนื่อง 

การบริจาคเลือดจึงถือเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่และทำได้ด้วยร่างกายของเราเอง อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสังคมอย่างมาก แต่ก็มีข้อควรคำนึงและข้อจำกัดบางประการที่ผู้บริจาคต้องทราบ เช่น เงื่อนไขทางสุขภาพ อายุ น้ำหนัก รวมถึงผลกระทบหลังบริจาคที่อาจเกิดขึ้นในบางราย 

บทความนี้จะอธิบายข้อดี ข้อเสีย และข้อจำกัดของการบริจาคเลือดอย่างละเอียด เพื่อให้ทุกคนสามารถตัดสินใจได้อย่างรอบคอบและปลอดภัยหากต้องการร่วมเป็นผู้ให้ชีวิตผ่านการบริจาคเลือด


ข้อดีของการบริจาคเลือด

1. ช่วยชีวิตผู้อื่น

  • เลือดที่บริจาค 1 ถุง (ประมาณ 350-450 มิลลิลิตร) สามารถนำไปช่วยชีวิตผู้ป่วยได้ถึง 3 ราย เพราะสามารถแยกเป็นส่วนประกอบ ได้แก่ เม็ดเลือดแดง พลาสมา และเกล็ดเลือด

2. ตรวจสุขภาพเบื้องต้นฟรี

  • ผู้บริจาคเลือดจะได้รับการตรวจวัดความดันโลหิต ชีพจร ระดับฮีโมโกลบิน และน้ำหนักตัว
  • ยังมีการตรวจหาโรคติดต่อทางเลือด เช่น ไวรัสตับอักเสบ B, C, ซิฟิลิส, HIV และมาลาเรียโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

3. กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดใหม่

  • ร่างกายจะเร่งสร้างเม็ดเลือดใหม่มาทดแทน ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดีขึ้นและช่วยเสริมสร้างการทำงานของไขกระดูก

4. ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ

  • มีงานวิจัยหลายฉบับพบว่า การบริจาคเลือดเป็นประจำ ช่วยลดระดับธาตุเหล็กในเลือดซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด

5. ช่วยควบคุมน้ำหนัก

  • การบริจาคเลือด 1 ครั้ง เผาผลาญพลังงานได้ประมาณ 650 แคลอรี ซึ่งเทียบเท่ากับการวิ่งประมาณ 1 ชั่วโมง

6. ส่งเสริมจิตใจและสุขภาพจิต

  • ผู้บริจาคเลือดมักรู้สึกมีคุณค่าและภาคภูมิใจในตัวเอง ช่วยลดภาวะความเครียดและภาวะซึมเศร้าได้ในบางกรณี


ข้อเสียของการบริจาคเลือด

1. อาการอ่อนเพลียหรือวิงเวียน

  • ผู้บริจาคบางรายอาจรู้สึกเหนื่อย อ่อนเพลีย หรือเวียนศีรษะหลังจากบริจาค โดยเฉพาะหากพักผ่อนน้อยหรือไม่ได้รับประทานอาหารก่อนมา

2. ภาวะเลือดจางชั่วคราว

  • การสูญเสียเลือดอาจทำให้ฮีโมโกลบินลดลงชั่วคราว โดยร่างกายต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว (ประมาณ 2-4 สัปดาห์)

3. ความเสี่ยงจากการเจาะเข็ม

  • อาจมีรอยฟกช้ำ ปวดบริเวณที่เจาะ หรือเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น เส้นเลือดอักเสบ (ในบางรายซึ่งพบได้น้อย)

4. ห้ามออกแรงหลังบริจาคทันที

  • หลังจากบริจาคเลือดควรหลีกเลี่ยงการออกแรงหนัก เช่น การยกของ หรือออกกำลังกายหนักๆ อย่างน้อย 6-12 ชั่วโมง

5. ต้องพักฟื้นก่อนบริจาคครั้งต่อไป

  • การบริจาคเลือดทั้งเลือด (Whole Blood) ต้องเว้นระยะห่างอย่างน้อย 12 สัปดาห์ก่อนบริจาคครั้งต่อไป ซึ่งเป็นการจำกัดจำนวนครั้งในการช่วยเหลือผู้อื่น


ข้อจำกัดสำหรับบางคนในการบริจาคเลือด

1. ข้อจำกัดด้านสุขภาพ

  • ผู้ที่เป็นโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวานควบคุมไม่ได้ โรคมะเร็ง โรคเลือดบางชนิด ไม่สามารถบริจาคเลือดได้
  • ผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูง/ต่ำเกินเกณฑ์ หรือมีระดับฮีโมโกลบินต่ำ

2. ข้อจำกัดด้านพฤติกรรม

  • ผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น เคยใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น มีประวัติติดเชื้อ HIV หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
  • ผู้ที่เจาะหู สัก ลบรอยสัก หรือฝังเข็มภายใน 6 เดือนก่อนหน้าวันบริจาค

3. ข้อจำกัดตามช่วงเวลา

  • หลังจากฉีดวัคซีนบางชนิด หรือทานยาบางกลุ่ม เช่น ยาปฏิชีวนะ ต้องรอให้พ้นระยะก่อนจึงสามารถบริจาคได้
  • หลังจากผ่าตัด ทำฟัน ถอนฟัน หรือส่องกล้องในร่างกาย ต้องพักระยะตามข้อกำหนด

4. ข้อจำกัดด้านน้ำหนักและอายุ

  • ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 17 ปี หรือมากกว่า 70 ปี (ในกรณีไม่มีใบอนุญาตพิเศษ)
  • ผู้ที่น้ำหนักตัวต่ำกว่า 45-50 กิโลกรัม (ขึ้นกับชนิดการบริจาค)

5. ผู้หญิงระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร

  • หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมลูกยังไม่สามารถบริจาคเลือดได้ เพราะร่างกายต้องการเลือดไปเลี้ยงทารก


คำแนะนำก่อนและหลังบริจาคเลือด

ก่อนบริจาค

  • นอนพักให้เพียงพออย่างน้อย 6 ชั่วโมง
  • ดื่มน้ำมาก ๆ ก่อนบริจาค 1-2 แก้ว
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอาหารมันจัดก่อนบริจาค 1 วัน
  • รับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น ผักใบเขียว ตับ ถั่ว และอาหารทะเล

หลังบริจาค

  • พักผ่อนในที่นั่งอย่างน้อย 15 นาทีหลังบริจาค
  • ดื่มน้ำและทานอาหารว่างที่จัดเตรียมไว้
  • ทานยาบำรุงเลือดที่ได้รับ
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักในวันนั้น
  • หากมีอาการผิดปกติ เช่น เวียนศีรษะ คลื่นไส้ ควรนอนราบและยกเท้าสูง และรีบแจ้งเจ้าหน้าที่


บทสรุป การบริจาคเลือดเป็นการทำความดีที่มีประโยชน์ทั้งต่อผู้รับและผู้ให้ อย่างไรก็ตาม การบริจาคเลือดควรทำด้วยความเข้าใจในข้อดี ข้อเสีย และข้อจำกัดอย่างรอบด้าน เพื่อความปลอดภัยของทั้งผู้บริจาคและผู้รับ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือพฤติกรรมเสี่ยง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนบริจาคเสมอ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีสุขภาพแข็งแรงพอและผ่านเกณฑ์ที่กำหนด การบริจาคเลือดอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณมีส่วนร่วมในการต่อชีวิตผู้อื่นได้อย่างแท้จริง และสร้างความภูมิใจในจิตใจที่ไม่อาจประเมินค่าได

0 ความคิดเห็น