อาหารคีโตเจนิก (Ketogenic Diet) เป็นรูปแบบการรับประทานอาหารที่เน้นการลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตให้น้อยมาก และเพิ่มการบริโภคไขมันที่ดีต่อสุขภาพ พร้อมกับปริมาณโปรตีนที่พอเหมาะ

หลักการสำคัญของคีโตคือการทำให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะ คีโตซิส (Ketosis) ซึ่งเป็นกระบวนการที่ร่างกายเผาผลาญไขมันเป็นพลังงานแทนน้ำตาล ด้วยเหตุนี้ อาหารคีโตจึงได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก ควบคุมน้ำตาลในเลือด และเพิ่มพลังงาน 

โดยทั่วไป อาหารคีโตจะเน้นอาหารที่มีไขมันสูง เช่น อะโวคาโด น้ำมันมะกอก เนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์นมไขมันเต็ม รวมถึงการหลีกเลี่ยงอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง เช่น ข้าว แป้ง น้ำตาล และผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักอาหารคีโตอย่างละเอียด พร้อมตัวอย่างเมนู และวิธีรับประทานที่ถูกต้อง  

1. อาหารคีโตคืออะไร และทำไมถึงสำคัญ?  

อาหารคีโตเจนิกเป็นการรับประทานอาหารที่ปรับเปลี่ยนแหล่งพลังงานหลักของร่างกายจากคาร์โบไฮเดรตเป็นไขมัน ส่งผลให้ร่างกายเผาผลาญไขมันสะสมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งอาจช่วยในการลดน้ำหนัก ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และลดการอักเสบ  

2. ตัวอย่างอาหารคีโต  

✅ อาหารที่แนะนำ  

• โปรตีน: เนื้อสัตว์ ปลา ไข่  
• ไขมันดี: อะโวคาโด น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว  
• ผักที่มีคาร์บต่ำ: ผักใบเขียว บรอกโคลี กะหล่ำปลี  
• ผลิตภัณฑ์จากนม: ชีส ครีมสด  

❌ อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง  

• ข้าว แป้ง เส้นก๋วยเตี๋ยว  
• น้ำตาล และขนมหวาน  
• ผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง เช่น กล้วย มะม่วง  

3. วิธีการรับประทานคีโตให้ได้ผล  

• คำนวณปริมาณไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรตให้เหมาะสม  
• ดื่มน้ำให้เพียงพอ และรับประทานเกลือแร่เสริมเพื่อป้องกันอาการ “คีโตฟลู”  
• เลือกไขมันดีเป็นหลัก หลีกเลี่ยงไขมันทรานส์  

สรุป การรับประทานแบบคีโต ต้องใช้วินัย และความเข้าใจที่ถูกต้อง หากทำอย่างเหมาะสม อาจช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีขึ้น และรวมทั้ง สามารถลดน้ำหนักได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย