วัคซีน (Vaccine) คืออะไร?
วัคซีนคือสารที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้สามารถป้องกันโรคติดเชื้อต่าง ๆ ได้ โดยวัคซีนมักมีส่วนประกอบของเชื้อโรคที่ถูกทำให้อ่อนแอ หรือชิ้นส่วนของเชื้อโรคที่ไม่เป็นอันตราย
เมื่อวัคซีนมีการฉีดเข้าสู่ร่างกาย ระบบภูมิคุ้มกันจะเรียนรู้และสร้างภูมิต้านทานต่อโรคนั้น ๆ ทำให้หากได้รับเชื้อในอนาคต ร่างกายสามารถตอบสนองและกำจัดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประโยชน์ของวัคซีน
- ป้องกันโรค – ลดโอกาสในการติดเชื้อโรคร้ายแรง เช่น ไข้หวัดใหญ่ หัด คอตีบ ไอกรน โควิด-19 และโรคอื่น ๆ
- ลดความรุนแรงของโรค – แม้ว่าจะติดเชื้อ วัคซีนช่วยลดอาการรุนแรง ลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน และลดอัตราการเสียชีวิต
- ลดการแพร่กระจายของเชื้อ – ช่วยควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่อในชุมชน
- ส่งเสริมสุขภาพโดยรวม – ลดภาระด้านสาธารณสุขและค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล
- ช่วยกำจัดโรคบางชนิดให้หมดไป – เช่น โรคฝีดาษที่ถูกกำจัดไปทั่วโลกแล้ว
วัคซีนที่สำคัญและรายละเอียดการป้องกัน
1. วัคซีนสำหรับเด็ก (วัคซีนพื้นฐาน)
ชื่อวัคซีน | ป้องกันโรค | ช่วงอายุที่ควรฉีด |
---|---|---|
วัณโรค (BCG) | วัณโรค | แรกเกิด |
ไวรัสตับอักเสบบี (HBV) | ไวรัสตับอักเสบบี | แรกเกิด, 1 เดือน, 6 เดือน |
คอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน (DTP) | คอตีบ บาดทะยัก ไอกรน | 2, 4, 6 เดือน (กระตุ้นตอน 1.5 ปี และ 4-6 ปี) |
โปลิโอ (OPV/IPV) | โปลิโอ (อัมพาตจากไวรัสโปลิโอ) | 2, 4, 6 เดือน (กระตุ้นตอน 1.5 ปี และ 4-6 ปี) |
หัด-คางทูม-หัดเยอรมัน (MMR) | หัด คางทูม หัดเยอรมัน | 9 เดือน, 2 ปีครึ่ง |
ไอพีดี (IPD) | ปอดอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อนิวโมคอคคัส | 2, 4, 6 เดือน (กระตุ้น 12-15 เดือน) |
วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี (JE) | ไข้สมองอักเสบเจอี | 9 เดือน, 1 ปีครึ่ง |
2. วัคซีนสำหรับผู้ใหญ่และวัยทำงาน
ชื่อวัคซีน | ป้องกันโรค | ช่วงอายุที่แนะนำ |
---|---|---|
ไข้หวัดใหญ่ | ไข้หวัดใหญ่ (สายพันธุ์เปลี่ยนทุกปี) | ทุกปี |
ไวรัสตับอักเสบบี | ไวรัสตับอักเสบบี | ผู้ที่ยังไม่เคยฉีดมาก่อน |
ไวรัสตับอักเสบเอ | ไวรัสตับอักเสบเอ (อาหารเป็นพิษรุนแรง) | 2 เข็ม ห่างกัน 6-12 เดือน |
วัคซีนป้องกันปอดอักเสบ (Pneumococcal) | ปอดอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ | ผู้สูงอายุ 65+ หรือกลุ่มเสี่ยง |
วัคซีนบาดทะยัก-คอตีบ (Td/Tdap) | บาดทะยัก คอตีบ | ทุก 10 ปี |
3. วัคซีนเฉพาะทางและวัคซีนทางเลือก
ชื่อวัคซีน | ป้องกันโรค | กลุ่มที่ควรฉีด |
---|---|---|
HPV (Human Papillomavirus) | มะเร็งปากมดลูก หูดหงอนไก่ | หญิงและชาย อายุ 9-26 ปี |
วัคซีนไข้เลือดออก (Dengue) | ไข้เลือดออกจากไวรัสเดงกี | ผู้ที่เคยติดเชื้อเดงกีแล้ว อายุ 9-45 ปี |
วัคซีนโควิด-19 | โควิด-19 | ทุกคน โดยเฉพาะผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยง |
วัคซีนอีสุกอีใส (Varicella) | โรคอีสุกอีใส | ผู้ที่ไม่เคยเป็นโรคมาก่อน |
วัคซีนงูสวัด (Shingles) | โรคงูสวัด (เกิดจากไวรัสอีสุกอีใสซ้ำซ้อน) | ผู้สูงอายุ 50 ปีขึ้นไป |
คนไทยทุกคนต้องฉีดวัคซีนหรือไม่?
การฉีดวัคซีนเป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกคน แต่บางชนิดเป็น "วัคซีนภาคบังคับ" และบางชนิดเป็น "วัคซีนทางเลือก" ซึ่งขึ้นอยู่กับอายุและความจำเป็นของแต่ละบุคคล เช่น
- เด็กแรกเกิดถึงวัยเรียน
มีวัคซีนที่ต้องฉีดตามแผนของกระทรวงสาธารณสุข เช่น วัคซีนป้องกันวัณโรค ตับอักเสบบี คอตีบ บาดทะยัก ไอกรน โปลิโอ และหัด - ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ
ควรได้รับวัคซีนเสริม เช่น วัคซีนไข้หวัดใหญ่ วัคซีนป้องกันปอดอักเสบ และวัคซีนโควิด-19 - กลุ่มเสี่ยง
ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง หญิงตั้งครรภ์ หรือผู้ที่ทำงานในสถานที่เสี่ยง ควรได้รับวัคซีนเพิ่มเติม
ค่าใช้จ่ายของวัคซีนแพงหรือไม่?
- วัคซีนภาคบังคับ
รัฐบาลให้บริการฟรี เช่น วัคซีนพื้นฐานสำหรับเด็กและวัคซีนโควิด-19 - วัคซีนทางเลือก
มีค่าใช้จ่าย เช่น วัคซีนป้องกันงูสวัด ไข้เลือดออก HPV (ป้องกันมะเร็งปากมดลูก) และวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบเอ โดยราคาแตกต่างกันไปตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักพันบาท - สิทธิประกันสุขภาพ
บางวัคซีนสามารถเบิกได้จากสิทธิ์ประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) ประกันสังคม หรือสวัสดิการข้าราชการ
สรุป วัคซีนเป็นเครื่องมือสำคัญในการป้องกันโรค ควรฉีดตามคำแนะนำของแพทย์ และสามารถรับวัคซีนพื้นฐานฟรีจากโรงพยาบาลของรัฐ ส่วนวัคซีนทางเลือกอาจมีค่าใช้จ่าย แต่ช่วยป้องกันโรคร้ายแรงในระยะยาว
0 ความคิดเห็น